เริ่ม 1 ม.ค. 67 สมอ. ควบคุมมลพิษรถ
สมอ.
คุมมลพิษรถบรรทุก-รถบัส-รถกระบะ-รถยนต์เล็ก ตามมาตรฐานยูโร 5 เริ่มบังคับใช้ 1
มกราคม 2567
บอร์ด
สมอ. เห็นชอบให้บังคับใช้มาตรฐานยูโร 5 คุมมลพิษรถบรรทุก รถบัส รถกระบะ และรถยนต์เล็ก
ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลและเบนซิน มีผล 1 มกราคม 2567 มุ่งแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 และรักษาสิ่งแวดล้อม
ตามนโยบายรัฐบาล
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) หรือบอร์ด
สมอ. ประจำเดือนสิงหาคม 2565 ว่า บอร์ด สมอ.
ได้มีมติเห็นชอบให้ สมอ. ควบคุมรถบรรทุก รถบัส รถกระบะ และรถยนต์เล็ก
ทุกรุ่นทุกคัน ต้องได้มาตรฐานยูโร 5 โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่
1 มกราคม 2567 เพื่อควบคุมปริมาณสารมลพิษที่ปล่อยออกมา
ไม่ให้เกินเกณฑ์ที่เป็นอันตรายต่อประชาชน
ซึ่งเป็นไปตามนโยบายกระทรวงอุตสาหกรรมที่ได้ขานรับนโยบายรัฐบาลในการแก้ปัญหาฝุ่น PM
2.5 และแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมของประเทศ ได้กำชับให้ สมอ.
เร่งรัดกำหนดมาตรฐานเพื่อควบคุมปริมาณสารมลพิษจากยานยนต์อย่างต่อเนื่อง
ซึ่งปัจจุบันได้กำหนดมาตรฐานแล้วจำนวน 34 มาตรฐาน อาทิ
รถยนต์ขนาดใหญ่และขนาดเล็กที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลและเบนซิน รถมอเตอร์ไซค์
การทดสอบสารมลพิษจากเครื่องยนต์ และมลพิษทางเสียงที่เกิดจากรถยนต์ตั้งแต่
4 ล้อ ขึ้นไป เป็นต้น
นายบรรจง สุกรีฑา เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
กล่าวเพิ่มเติมว่า มาตรฐานยูโร 5 นี้จะควบคุมปริมาณสารมลพิษที่ปล่อยออกมา
ได้แก่ คาร์บอนมอนอกไซด์ ไฮโดรคาร์บอน ออกไซด์ของไนโตรเจน
และปริมาณสารมลพิษอนุภาคหรือฝุ่นจากเครื่องยนต์
โดยมีระบบวินิจฉัยอุปกรณ์ควบคุมสารมลพิษ
ซึ่งเป็นระบบที่จะแจ้งผู้ขับขี่ในกรณีที่อุปกรณ์ควบคุมสารมลพิษทำงานผิดปกติ
รวมทั้งมีข้อกำหนดเรื่องความทนทานของอุปกรณ์ควบคุมมลพิษ เพื่อให้มั่นใจได้ว่ารถยนต์ที่ผ่านการใช้งานไประยะเวลาหนึ่งแล้ว
ยังคงสามารถควบคุมมลพิษตามเกณฑ์ที่กำหนดในมาตรฐานได้
การบังคับใช้มาตรฐานดังกล่าวถือเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ครั้งสำคัญของไทย
ที่จะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยสารมลพิษจากรถยนต์ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของฝุ่นละอองขนาดจิ๋วหรือ
PM 2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนให้ลดน้อยลง
นำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน โดยหลังจากนี้ สมอ.
จะดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย
เพื่อให้มาตรฐานดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตามระยะเวลาที่กำหนดต่อไป
นอกจากนี้ บอร์ด สมอ. ยังได้เห็นชอบมาตรฐานเพิ่มเติมอีก 29 มาตรฐาน อาทิ เชื้อเพลิงชีวมวล ไม้สับ เชื้อเพลิงขยะ หลอดแอลอีดี
ปิโตรเลียมและผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียม
อุปกรณ์ตรวจจับกระแสเหลือกระแสตรงที่ใช้สำหรับการประจุยานยนต์ไฟฟ้า
และระบบเตือนพายุฝนฟ้าคะนอง-การป้องกันฟ้าผ่า เป็นต้น
ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/58648